แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ตัวต้านทาน รีซิสเตอร์ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ตัวต้านทาน รีซิสเตอร์ แสดงบทความทั้งหมด

วิธีอ่านค่าตัวต้านทาน SMD 102 คือ ตัวต้าน 1K ohm และ รูปตัวต้านทาน  SMD


ตัวต้านทาน


รูปตัวต้านทาน  SMD พร้อมเฉลยค่าตัวต้านทาน
ตัวต้านทาน  SMD  มีขนาดเล็กทำให้ไม่มีพื้นพี่สำหรับพิมพ์ค่าวัตต์ ค่าความต้านทาน และ ค่า % ความคาดเคลื่อนเหมือนกับตัวต้านทานตัวใหญ่ๆ    พื้นที่สำหรับพิมพ์รหัสสีก็ไม่มีเช่นกันจึงใช้รหัสสีระบุสเปคไม่ได้  ค่าวัตต์ตัวต้านทาน SMD จะทราบได้จากรหัสขนาดโดยวัดความกว้าง ความยาว ความสูงแล้วดูค่าในตาราง    ยกตัวอย่างเช่นตัวต้านทานที่มีขนาด ยาวxกว้างxสูง  = 3.1x1.6x0.55mm มีชื่อเรียกเฉพาะตามมาตรฐาน EIA Size Code  ว่าขนาด Case Size  1206  จะมีวัตต์ =  1/4W   ถ้าใช้ขนาด Case Size ในการประมาณค่าวัตต์  ผู้ผลิตแต่ละรายอาจมีค่าวัตต์ตัวต้านทาน SMD ที่ไม่เท่ากันเปะแต่ก็จะมีค่าวัตต์ที่ใกล้เคียงกัน


(ชนิดของตัวต้านทานให้กดดูที่หมวดหมู่ตัวต้านทาน ปุ่มอยู่ตรงด้านข้างจะมีรูปเป็นจำนวนมากให้ดู)


ดูขนาดแล้วเทียบเป็นวัตต์ตามตารางนี้    

ขนาด ตัวต้านทาน  SMD


สำหรับค่าความต้านทาน และ  % ความคาดเคลื่อนบอกเป็นรหัสสั้นๆ   รหัสอาจเป็นรหัสตัวเลขล้วน หรือรหัสตัวเลขปนกับตัวอักษร 
โดยอักษร R หมายถึงจุด (.) และมีค่าเป็น Ohm
K  หมายถึงจุด (.) และมีค่าเป็น   Kilo     Ohm     
M หมายถึงจุด (.) และมีค่าเป็น   Mega  Ohm


รหัสบอกค่าความต้านทานแบ่งออกเป็น 2    แบบใหญ่ๆ   ดังนี้

1)  แบบ  3 Digit Marking  ใช้กับตัวต้านทาน SMD  ที่มีค่าความคาดเคลื่อน   ±5% 
เช่น   244  มีความหมายดังนี้  ตัวเลขแรกและตัวเลขที่สองเป็นตัวเลขตัวตั้ง   ตัวเลขที่สามเป็นตัวคูณ (10 ยกกำลัง หรือจำนวนเลข 0 )   ดูตัวอย่างกันเลย

244   =    24  x  10 ยกกำลัง 4  ( x 10000)    =  24 x 10000      =  240000   =  240 K ohm 
240   =    24  x  10 ยกกำลัง 0  ( x1  )           =  24 x 1 =  24     =  24  ohm   
105  =     10  x  10 ยกกำลัง 5  ( x 100000)  =  10x 100000     =  1000000  =  1000 K ohm  หรือ 1 M ohm
210  =      21  x  10 ยกกำลัง 0  ( x1 )       =     21x 1          =   21  ohm 
221  =      22  x  10 ยกกำลัง 1  ( x10)      =     22x10         =   220 ohm
101  =      10  x  10 ยกกำลัง 1  ( x10)      =     10x10         =  100     =   100  ohm  
102  =      10  x  10 ยกกำลัง 2  ( x100)    =     10x100       =  1000   =   1K  ohm
103  =      10  x  10 ยกกำลัง 3  ( x1000)  =     10x1000     =  1000   =   10K  ohm
2R2  =      2.2  ohm     , R หมายถึงจุด (.) และมีค่าเป็น Ohm   , ถ้า K = K Ohm ,  M= Mega ohm
R22  =      0.22 ohm    , R หมายถึงจุด (.) และมีค่าเป็น Ohm   , ถ้า K = K Ohm ,  M= Mega ohm
R50  =      0.50  ohm   , R หมายถึงจุด (.) และมีค่าเป็น Ohm   , ถ้า K = K Ohm ,  M= Mega ohm
R33  =      0.33 ohm    , R หมายถึงจุด (.) และมีค่าเป็น Ohm   , ถ้า K = K Ohm ,  M= Meag ohm


ตัวต้านทาน SMD  รหัส 301
ตัวต้านทาน SMD  รหัส 301 =  30x10 = 300 ohm


เปรียบเทียบชนิดของตัวต้านทาน ให้ดูชัดๆ ป้องกันการระบุชนิด R ผิด รูปตัวต้านทานค่าคงที่หรือตัวต้านทานคงที่

ตัวต้านทาน  ชนิดต่างๆ   Resistor type
                                                      เปรียบเทียบชนิด ตัวต้านทาน   

ชนิดของตัวทานค่าคงที่และรูปตัวต้านทานจำนวนมากดูเพื่อเปรียบเทียบช่วยให้เข้าใจง่าย
เราทราบกันดีแล้วว่าตัวต้านทานมีหลายชนิด   ในทางปฏิบัติมี   R  ที่สีคล้ายๆกันจึงเป็นปัญหาในการแยกชนิดตัวต้านทานในบางครั้ง  สำหรับคนที่มีประสบการณ์ทำงานเกี่ยวข้องกับตัวต้านทานหลายๆแบบจะไม่มีปัญหาเรื่องนี้แต่กลับกันสำหรับมือใหม่หลายครั้งพบว่าการระบุชนิดตัวต้านทานนั้นจำเป็นต้องหาประสบการณ์และข้อมูลเพิ่มเติม  จากการสำรวจตลาดเราได้รวบรวม R แบบต่างๆที่มีขายแล้วแยกเป็นกลุ่มๆ ไม่ปนกัน  จากนั้นทำการเปรียบเทียบให้ดูแบบชัดๆ  มีรูปประกอบจำนวนมากช่วยให้เข้าใจง่ายและสามารถย้อนกลับมาดูเมื่อต้องการศึกษาได้ตลอดเวลา  ก่อนที่จะทำการเปรียบเทียบขอเริ่มต้นด้วยการดูรูป   R ชนิดต่างๆก่อน  การเปรียบเทียบจะอยู่ในช่วงท้าย  จะนำมากล่าวในบทความนี้เพียง 5 ชนิดเท่านั้น คือ  ต้านทานชนิดผงคาร์บอน   ต้านทานชนิดฟิล์มคาร์บอน   ตัวต้านทานเมตัลฟิล์ม   ตัวต้านทานทนความร้อน  หรือ  Metal Oxide Film Resistor  และ  ตัวต้านทานชนิดไวร์วาวด์

(ชนิดของตัวต้านทานให้กดดูที่หมวดหมู่ตัวต้านทาน ปุ่มอยู่ตรงด้านข้างจะมีรูปเป็นจำนวนมากให้ดู)


1.   ตัวต้านทานชนิดผงคาร์บอน  ( Carbon Composition  Resistor  )

carbon resistor  ຕົວຕ້ານທານ  ต้านทานชนิดผงคาร์บอน  រេស៊ីស្តង់   Carbon Composition  Resistor


2.   ตัวต้านทานชนิดฟิล์มคาร์บอน  ( Carbon Film  Resistor  )

ตัวต้านทาน     ชนิดฟิล์มคาร์บอน
                                                     ลักษณะตัวต้านทานชนิดฟิล์มคาร์บอน



3.   ตัวต้านทานชนิดเมตัลฟิล์ม  (  Metal  Film   Resistor )

ตัวต้านทาน   ชนิดเมตัลฟิล์ม   ຕົວຕ້ານທານ
                                                     ลักษณะตัวต้านทานชนิดเมตัลฟิล์ม

 4.   ตัวต้านทานทนความร้อน  หรือ  Metal Oxide Film Resistor


ตัวต้านทาน    ตัวต้านทานทนความร้อน  ຕົວຕ້ານທານ  រេស៊ីស្តង់
                                ลักษณะ    ตัวต้านทานทนความร้อน  หรือ  Metal  Oxide  Film Resistor  


ตัวต้านทาน ตัวต้านทานทนความร้อน    Metal Oxide Film Resistor
                  ลักษณะ    ตัวต้านทานทนความร้อน  หรือ  Metal  Oxide  Film  Resistor  


5.   ตัวต้านทานชนิดไวร์วาวด์  (  Wirewound  Resistor )

ผ่าให้ดูโครงสร้างข้างในของตัวต้านทานชนิดต่างๆ รูปตัวต้านทานคงที่ โครงสร้างของตัวต้านทาน


ตัวต้านทาน  Resistor   ຕົວຕ້ານທານ


เคยอ่านโครงสร้างตัวต้านทานที่อธิบายไว้ในหนังสือและในหนังสือก็มีรูปประกอบ    มาดูของจริงอีกรอบว่ามันเป็นอย่างไร      รูปของจริงทำให้การเรียนรู้น่าสนใจและสนุก    รูปของจริงช่วยให้เข้าใจโครงสร้างของตัวต้านทานที่อธิบายไว้ในหนังสือได้มากขึ้น       มาดูกันเลย

(ชนิดของตัวต้านทานให้กดดูที่หมวดหมู่ตัวต้านทาน ปุ่มอยู่ตรงด้านข้างจะมีรูปเป็นจำนวนมากให้ดู)

1. โครงสร้างตัวต้านทานชนิดเมตัลฟิล์ม

รูปตัวต้านทาน   ชนิดเมตัลฟิล์ม

ตัวต้านทาน
   โครงสร้างตัวต้านทานชนิดเมตัลฟิล์ม  ระหว่างแต่ละเกลียวจะเป็นร่องเป็นตัวกั้น  ในรูปสีที่เคลือบเข้าไปในร่อง


2.  โครงสร้างตัวต้านทานชนิดผงคาร์บอน

ตัวต้านทาน

   
ตัวต้านทาน Resistor




ตัวต้านทานเซรามิค ( Ceramic Resistor ) ตัวต้านทานกระเบื้อง R กระเบื้อง คุณสมบัติ โครงสร้าง

ตัวต้านทานกระเบื้อง  R กระเบื้อง  ຕົວຕ້ານທານ


ตัวต้านทานเซรามิคนิยมใช้งานในแผงวงจรโดยเฉพาะแผงวงจรงานอุตสาหกรรม  ลักษณะสีของตัวต้านทานเป็นสีขาว ข้างนอกหุ้มด้วยเซรามิค  ข้างในมีชิ้นส่วนที่เป็นตัวต้านทานซึ่งทำมาจากเส้นลวดพัน ( Wirewound ) หรือ  เมตัลออกไซด์ฟิล์ม  เมตัลออกไซด์ฟิล์มจะใช้ทำตัวต้านทานแทนเส้นลวดเมื่อค่าที่ต้องการผลิตด้วยเส้นลวดทำไม่ได้ เราใช้เลือยเพื่อผ่าดูข้างในว่าเป็นอย่างไร  ปรากฏว่าเลือยไม่ค่อยเข้าเนื่องจากเป็นเซรามิคกลัวใบเลื่อยจะเสียจึงใช้วิธีการทุบแทน   ปรากฏดังรูปด้านล่าง   ข้างในมีชิ้นส่วนตัวต้านทาน มีฝาต่อขาและมีขาต่อใช้งาน    ด้วยคุณสมบัติของเซรามิคที่ใช้หุ้มทำให้ตัวต้านทานชนิดนี้มีคุณสมบัติที่ดีขณะที่ราคาถูก

(ชนิดของตัวต้านทานให้กดดูที่หมวดหมู่ตัวต้านทาน ปุ่มอยู่ตรงด้านข้างจะมีรูปเป็นจำนวนมากให้ดู)

ข้อดี
-   ทนความร้อนได้ดี
-   ระบายความร้อนได้ดี
-   ค่าความต้านทานมีความเสถียรต่ออุณหภูมิ
-   เซรามิคเป็นฉนวนที่ดีมาก R ชนิดนี้จึงเหมาะกับการใช้งานในแผงวงจรทีมีอุปกรณ์จำนวนมากในแผง
-   หุ้มด้วยเซรามิคทำให้ทนต่อความชื่นและการสั่นสะเทือนได้ดี  อุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์หลายอย่างเวลาทำงานจะเคลื่อนที่ไปมาชิ้นส่วนข้างในแผงวงจรมีโอกาสหลุด ดังนั้นชิ่นส่วนที่มีคุณสมบัติทนการสั่นสะเทือนได้ดี ( Resistance to shock ) จึงมีความจำเป็นสำหรับงานที่มีการเคลื่อนที่ไปมา
- ไม่เป็นเชื้อไฟ( Flameproof) เมือเกิดกรณีแย่สุดในวงวรตัวต้านทานอาจเสียหาย ด้วยคุณสมบัติของเซรามิคจะไม่เป็นเชื้อไฟและไม่มีเปลวไฟเพื่อลามไหม้ชิ่นส่วนอื่นๆในวงจร  ด้วยคุณสมบัติกันไฟลามนี้จึงช่วยป้องกันไฟใหม้ด้วยการไม่ลามไปไหม้ชิ่นส่วนอื่นๆ

รูปตัวต้านทานไวร์วาวด์ ( Wirewound Resistor ) โครงสร้าง  คุณสมบัติ


ตัวต้านทานไวร์วาวด์   Wirewound Resistor   ຕົວຕ້ານທານ


ตัวต้านทานไวร์วาวด์ บางครั้งเรียกตัวต้านทานชนิดขดลวด (ลวดพัน)    โครงสร้างพื้นฐานของตัวต้านทานชนิดนี้ทำจากเส้นลวดพันรอบแกนเซรามิคหรืออาจเป็นแกนไฟเบอร์กลาส  เส้นลวดที่ใช้พันอาจเป็นชนิด  Copper Nickel  Alloy หรือ  Nickel-Chrome Alloy   ด้านนอกสุดหุ้มด้วยซิลิโคนชนิดพิเศษทนความร้อนได้สูงหรืออาจเป็นวัสดุชนิดอื่นที่ทนความร้อนได้สูง  การหุ้มช่วยป้องกันตัวต้านทานจากสภาพแวดล้อม    ตรงปลายทั้งสองข้างมีฝาสำหรับต่อขาตัวนำออกไปใช้งาน    กำลังไฟฟ้าหรือวัตต์มีค่าตั้งแต่ 1/2W  1W 3W  5W  7W  10W   15W...จนถึง 1000W ขึ้นไป    โดยตัวต้านทานวัตต์ต่ำจะมีขายาวใช้สำหรับบัดกรีลงแผงวงจร   ตัวต้านทานวัตต์สูงขึ้นจะมีขนาดใหญ่ขึ้นจะมีขาสั้นเอาไว้บัดกรีเชื่อมต่อกับสายไฟและตัวต้านวัตต์สูงมีขาเป็นแบบขันน๊อตก็มีเพื่อให้การต่อแน่นและง่าย    สำหรับค่าความต้านทานของตัวต้านทานไวร์วาวด์ผลิตได้ตั้งแต่ค่าน้อยกว่า 1 โอห์มจนถึงค่าเป็น  Kilo โอห์ม   ความคลาดเคลื่อนมาตรฐานที่ผลิตคือ   ±5%   ±10% แต่สามารถผลิตสเปคอื่นๆได้ตั้งแต่    ±0.01%   ±1%   ±2%   ±3%   ±5%   ±10%    ตัวต้านทานไวร์วาวด์มีคุณสมบัติที่ดีมาก  ( High performance ) คือ  ค่าความต้านทานเสถียรเมื่อทำงานในวงจร   ระบายความร้อนได้ดี   ทนความร้อนได้สูง

ตัวต้านทาน SMD และรูปตัวต้านทาน SMT

ตัวต้านทาน  SMD   Resistor

ตัวต้านทาน  SMD  ขอเริ่มด้วยด้วยคำว่า SMD ย่อมาจก Surface Mount Device  แปลว่าอุปกรณ์เชื่อมเปะติดบนพื้นผิว  บางครั้งเรียกว่า SMT  Resistor   โดย SMT ย่อมากจาก  Surface Mount Technology มีความหมายสื่อถึงวิธีการเชื่อมติดเปะอุปกรณ์บนพื้นผิว   และบางครั้งก็เรียกว่าตัวต้านทานแบบ Chip ( Chip Resistor )  ทั้งนี้ก็เนื่องจากมันมีลักษณะเป็นแผ่นสีเหลี่ยมเหมือน Chip นั้นเอง
เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ที่เน้นพกพาสะดวกต้องทำให้เครื่องมีขนาดเล็ก    R แบบ SMD มีขนาดเล็ก จีงทำให้ประหยัดพื้นที่และลดขนาดของ PCB


(ชนิดของตัวต้านทานให้กดดูที่หมวดหมู่ตัวต้านทาน ปุ่มอยู่ตรงด้านข้างจะมีรูปเป็นจำนวนมากให้ดู)


Resistor ตัวต้านทาน


รูปแสดงการใช้งานตัวต้านทาน  SMD ในวงจร
ตัวต้านทาน SMD ส่วนใหญ่จะสีดำและมีตัวเลขพิมพ์ไว้บอกค่าความต้านทาน
ขณะที่ตัวเก็บประจุแบบ SMD ส่วนใหญ่จะเป็นสีน้ำตาลและไม่มีตัวเลขที่ตัวเก็บประจุ
ที่ลายวงจรจะพิมพ์ตัวอักษรไว้ให้เรารู้ว่าเป็น R  SMD หรือ C SMD
ถ้าเป็น  R SMD จะพิมพ์ไว้ขึ้นต้นด้วย R   ตัวอย่าง เช่น   R1   R2    R3   เป็นต้น
ถ้าเป็น  C SMD จะพิมพ์ไว้ขึ้นต้นด้วย C   ตัวอย่าง เช่น   C1   C9            เป็นต้น

ตัวต้านทาน  SMD  Resistor   ຕົວຕ້ານທານ



การอ่านเบอร์ เทอร์มิสเตอร์ และ การวัดเทอร์มิสเตอร์ Thermistor


เทอร์มิสเตอร์   Thermistor



ที่ตัวเทอร์มิสเตอร์จะบอกชนิดเป็น NTC  มีชื่อเบอร์หรือชื่อรุ่นซึ่งช่วยให้เราทราบสเปคของเทอร์มิสเตอร์เบื้องต้นได้   โดยตัวเลขแรกบอกค่าโอห์มและตัวเลขตัวที่ 2 บอกขนาดความโต Dia  ของแผ่นกลมแบน
ยกตัวอย่างเบอร์  8D-20  มีค่า  8 ohm  และขนาด 20mm  ตัวอย่างเพิ่มดูในตาราง

เทอร์มิสเตอร์   Thermistor



หลังจากอ่านเบอร์เทอร์มิสเตอร์ได้และทราบสเปคเบื้องต้นแล้วมาทดลองวัดด้วยมิเตอร์  เนื่องจากมันเป็นตัวต้านทานชนิดหนึ่งวิธีการวัดจึงเหมือนกันกับการวัดตัวต้านทาน


NTC 8D-20  อ่านสเปคจากเบอร์ได้  8 ohm  ขนาด  20mm  วัดได้จริง  8.3 ohm  ถูกต้อง

รูปตัวต้านทาน SMD ขนาดตัวต้านทาน SMD และ วิธีหาขนาดตัวต้านทาน SMD

ตัวต้านทาน   SMD   Resistor
    SMD Resistor


ตัวต้านทาน SMD เรียกอีกชื่อว่า Chip Resistor  ที่ตัวต้านทานจะมีรหัสตัวเลขบอกค่าความต้านทาน แต่ไม่มีขนาดระบุไว้   จะทราบขนาดตัวต้านทานต้องใช้การวัดขนาดแล้วเทียบในตารางของผู้ผลิต
ขนาดตัวตานทาน SMD จะมีมาตรฐานควบคุมดังนั้นผู้ผลิตแต่ละรายถ้าใช้ชื่อ Case Size เหมือนกัน ขนาดตัวต้านทานก็จะเท่ากัน  อาจจะแตกต่างกันระดับทศนิยม 2 หลัก  เช่น ±0.02   , ±0.10
จะใช้ตารางของ  Yageo  ซึ่งเป็นผู้ผลิตตัวต้านทานชั้นนำของโลกเป็นตัวอย่าง


(ชนิดของตัวต้านทานให้กดดูที่หมวดหมู่ตัวต้านทาน ปุ่มอยู่ตรงด้านข้างจะมีรูปเป็นจำนวนมากให้ดู)



ขนาดตัวต้านทาน  SMD


ตาราง  ขนาดตัวต้านทาน SMD
                                                                     ขนาดตัวต้านทาน SMD


วิธีหาขนาดตัวต้านทาน  SMD
จากรูปด้านล่างเป็นตัวต้านทานไม่ทราบขนาด ทำการวัดขนาดความยาวได้  2.8mm

ตัวต้านทาน โครงข่ายและอาร์เรย์ ( Resistor Networks and Arrays )

ตัวต้านทาน   Resistor   ຕົວຕ້ານທານ



ตัวต้านทานโครงข่ายและอาร์เรย์เป็นชุดของตัวต้านทานคือข้างในมีตัวต้านทานหลายตัวอาจมี  2 , 3 , 4 ,5 ,  6  ,7 ,8 ,  9 , 10 ตัว หรือมากกว่า เป็นต้น ตัวต้านทานข้างในเหล่านี้วางเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ
อาจเชื่อมต่อกันเป็นวงจรตัวต้านทานตามแบบที่ต้องการ   ถ้าเชื่อมต่อกันเรียก  Bussed  Circuit    ถ้าตัวทานไม่เชื่อมต่อกันเรียกว่า  Isolated  Circuit  วงจรข้างในมีหลายแบบขึ้นอยู่กับรุ่นของตัวต้านทานจะเป็นตัวกำหนดสเปค   สิ่งที่ต้องพิจารณาคือมีจำนวนตัวต้านทานข้างในกี่ตัว     ตำเหน่งขาของตัวตัวต้านทาน    ลักษณะวงจรข้างในของตัวต้านทาน   ขนาดความกว้างความยาวของตัวต้านทาน  ถ้าสเปคไม่เหมือนกันก็ใช้แทนกันไม่ได้     เนื่องจากเป็นชุดตัวต้านทานสำเร็จรูปทำให้สะดวกในการนำไปใช้งานหรือออกแบบวงจร  ตัวต้านทานข้างในมีหลายตัวขณะที่ใช้พื้นที่น้อยทำให้ประหยัดพื้นที่บนแผงวงจร PCB     รูปร่างของตัวต้านทานมีทั้งแบบ SMD ซึ่งระบุรหัสค่าความต้านทานแบบตัวต้านทาน SMD       แบบมีขาสองข้างเหมือน IC หรือ DIP    แบบขาเรียง 1 แถวหรือ SIP ( Single inline package )   ถ้าตัวต้านทานมีขนาดใหญ่จะบุชื่อรุ่นและผู้ผลิตไว้ที่ตัวต้านทานเลยทำให้่ง่ายในการหารุ่นทดแทน  ตัวทานชนิดนี้นิยมใช้งานในวงจรอิเล็กทรอนิกส์    เช่น  Voltage Divider , Signal conditioning ,  R/2R Ladder Network ,   Data communication  , Networking , Pull-up/Pull-Down Logic gate , portable test equipment   เป็นต้น ลองสังเกตรูปร่างของตัวต้านทานและลักษณะวงจรข้างในตามด้านล่าง  


(ชนิดของตัวต้านทานให้กดดูที่หมวดหมู่ตัวต้านทาน ปุ่มอยู่ตรงด้านข้างจะมีรูปเป็นจำนวนมากให้ดู)


ตัวต้านทานโครงข่ายชนิด   Isolated  Circuit
ไม่ได้เชื่อมต่อถึงกันหรือแยกกัน

ตัวต้านทานโครงข่ายชนิด   Bussed  Circuit
( เชื่อมต่อถึงกัน)


วงจรภายในของตัวต้านทานโครงข่ายมีหลายแบบต้องดูจาก Datasheet ผู้ผลิต
ยกตัวอย่างมาให้ดู 1 แบบ

ตัวต้านทานโครงข่ายแบบ SMD

ตัวต้านทาน
                                             ตัวต้านทานโครงข่ายแบบ SMD



รูปตัวต้านทานชนิดฟิล์มออกไซด์ของโลหะ ( Metal Oxide Film Resistor ) ตัวต้านทานทนความร้อน

ตัวต้านทานทนความร้อน    ตัวต้านทาน  ชนิดฟิล์มออกไซด์ของโลหะ  Metal Oxide Film Resistor



ตัวต้านทานชนิดฟิล์มออกไซด์ของโลหะผลิตจากฟิล์มออกไซด์ของโลหะทำเป็นเกลียวฝากไว้บนแกนเซรามิค ด้านนอกหุ้มปิดและมีรหัสสีบอกค่าความต้านทานและค่าความคลาดเคลื่อน  ตรงปลายมีฝาเอาไว้ต่อกับขาตัวนำออกไปใช้งาน   ตัวต้านทานชนิดนี้มีความเสถียรสูงและเสถียรในระยะยาว  ( Long  term Stability and High stability  )   มีคุณสมบัติที่เชื่อถือได้ในระยะยาว ( High Reliability )  ย่านความต้านทานที่ผลิตได้มีตั้งแต่ค่าน้อยกว่า 1 โอห์มจนถึงค่า Mega โอห์ม  ขนาดวัตต์ตั้งแต่  1/4W  จนถึง  5W   มีค่าสัมประสิทธิ์อุณหภูมิต่ำ  ( Low  temperature coefficient )     ค่าความคลาดเคลื่อน  ±1%   ±2%   ±5%  ±10% ตัวต้านทานชนิดฟิล์มออกไซด์ของโลหะบางรุ่นมีการพัฒนาปรับปรุงสเปคให้มีคุณสมบัติพิเศษดีกว่ารุ่นมาตรฐาน ( Special Purpose )  เช่น  ทนแรงดันสูงได้และมีคุณสมบัติค่าสัมประสิทธ์แรงดันต่ำ  ( Low voltage coefficient) สเปคพิเศษมีค่าความต้านทานที่ผลิตได้ตั้งแต่ค่าโอห์มต่ำจนถึง Giga โอห์ม 

ตัวต้านทานชนิดฟิล์มโลหะ ( Metal Film Resistor) ตัวต้านทานคงที่ ค่าคงที่


ตัวต้านทาน    ฟิล์มโลหะ   Metal  Film  Resistor


ชนิดของตัวต้านทานให้กดดูที่หมวดหมู่ตัวต้านทาน ปุ่มอยู่ตรงด้านข้างจะมีรูปเป็นจำนวนมากให้ดู
ตัวต้านทานชนิดฟิล์มโลหะผลิตจากฟิล์มโลหะ (Metal Alloy Film )ฝากไว้บนแกนเซรามิค ฟิล์มถูกตัดเป็นเกลียวรอบแกนเซรามิค    รูปด้านล่างแสดงโครงสร้างข้างในตัวต้านทานชนิดฟิล์มโลหะ    ตรงปลายสองข้างมีฝาและ ขาตัวนำต่อออกใช้งาน ด้านนอกสุดเคลือบด้วยแลคเกอร์สีน้ำเงินอ่อน ( Light-Blue ) บางครั้งอาจเป็นสีฟ้า  มีค่าความต้านทานให้เลือกใช้งาน ( Resistance Range )  1 ohm จนถึงค่า Mega ohm  มีวัตต์ให้เลือกใช้งาน  1/8W  1/4W  1/2W    1W  2W    3W  4W    ตัวต้านทานชนิดฟิล์มโลหะมีค่าสัมประสิทธิ์อุณหภูมิต่ำจึงมีสเปคที่ดี ( ค่ายิ่งต่ำยิ่งดี)  ค่าความคลาดเคลื่อนมีหลายสเปคให้เลือกคือ   ±0.5%  ±1% ±2%  ±5%   ยิ่งค่าความคลาดเคลื่อนต่ำจะมีราคาแพงขึ้น   ตัวต้านทานชนิดฟิล์มโลหะมีความเสถึยรดีกว่าตัวต้านทานชนิดคาร์บอนอย่างมาก

เครื่อง วัดตัวเก็บประจุ วัดตัวต้านทาน วัดตัวเหนี่ยวนำ และอื่นๆ พิสูจน์ความสามารถเครื่องราคาถูกนี้

วัดตัวเก็บประจุ  วัดตัวต้านทาน วัดตัวเหนี่ยวนำ และอื่นๆ


กำลังมองหา RLC มิเตอร์แต่ไปเจอเครื่องตรวจเช็คอุปกรณ์ตัวนี้ด้วย   คุณสมบัติเครื่องบอกว่าสามารถวัด    R   L   C   Diode     Zener  Diode   Transistor  Mosfet    Fet  SCR  Triac  จะเห็นว่าค่อนข้างครอบคลุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เราเจอในงานซ่อมเลยที่เดียว   เป็น Item ที่ช่างต้องมี  เห็นราคากับความสามารถที่บอกไว้  ตอนแรกคิดว่าจริงหรือ   ?    นั้นเป็นเพียงความคิดเห็น   เลยมาวัดเทียบพิสูจน์กับเครื่องมือวัดราคาหลายพันและพิสูจน์กับอุปกรณ์ที่เรารู้ชนิดรู้เบอร์รู้ตำเหน่งขาแน่ๆ

1.  ทดลองวัดตัวต้านทานค่า 100 ohm  ชนิดเมตัลฟิล์ม
     ค่าที่วัดได้ถือว่า OK  เมื่อเทียบกับ RLC มิเตอร์

วัดตัวต้านทาน

วัดตัวต้านทาน



2.  ทดลองวัดตัวต้านทานค่า 100 ohm  ชนิดคาร์บอนฟิล์ม
    ค่าที่วัดได้ถือว่า OK  เมื่อเทียบกับ RLC มิเตอร์

การวัดวาริสเตอร์ ( Varistor ) อิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น  

           วัดวาริสเตอร์

วาริสเตอร์ทำงานเหมือนตัวต้านทานที่มีค่าความต้านปรับค่าตามแรงดัน    ดูสัญลักษณ์วาริสเตอร์ด้านล่าง   ทีแรงดันน้อยกว่าค่าวาริสโวลเตจ  วาริสเตอร์จะมีค่าความต้านทานสูงมากมากเกือบเป็น Infinity หรือวัดด้วยมิเตอร์ไม่ขึ้น  เมื่อมีแรงดันสูงยอดแหลมที่เกิดจากฟ้าผ่าหรือแรงดันกระชากซึ่งมากกว่าค่าวาริสโวลเตจ วาริสเตอร์จะมีค่าความต้านทานต่ำมาก  จากค่าความต้านทานที่ต่ำมากนั้นมันจะดึงกระแสลงกราวด์ทำให้อุปกรณ์ป้องกันวงจรตัวอื่นๆทำงาน เช่น   ฟิวส์ขาด  ถ้ามีกระแสสูงมากเกินกว่าที่วาริสเตอร์รับได้มันจะระเบิด

วาริสเตอร์     Varistor


วาริสเตอร์ปกติจะมีค่าความต้านสูงมากมากวัดไม่ขึ้น  การวัดใช้ย่านวัดตัวต้านทานย่านสูงๆ
และย่านวัดต่ำเพื่อดูว่ามันชอร์ตไหม
                                  
วัดวาริสเตอร์
                                                     การวัดวาริสเตอร์ ถ้าดีจะวัดไม่ขึ้นเลย


ค่าตัวต้านทานและแถบสีตัวต้านทาน อ่านค่าตัวต้านทานให้เร็วขึ้น 1 step อ่านค่า R 4 แถบสี วัดตัวต้านทานพิสูจน์


อ่านค่าตัวต้านทาน  4  แถบสี
ค่าตัวต้านทานและแถบสีตัวต้านทาน 4  แถบสี พร้อมเฉลยค่า
เป็นที่ทราบแล้วว่า  แถบสีที่ 1 และ แถบสีที่ 2 เป็นตัวเลขตัวตั้ง  แถบสีที่ 3 เป็นตัวคูณ  ส่วนแถบสีที่ 4 เป็น % ค่าความคาดเคลื่อน  ดูที่ช่องตัวคูณและสังเกตค่าในตาราง  ถ้า น้ำตาลเท่ากับคูณด้วย  x10
แดงเท่ากับคูณด้วย  x100   ส้มคูณด้วย  x1000  ซึ่ง 1000 ก็เท่ากับ 1K  นั้นเอง  เวลาอ่านค่า  R ที่มีรหัสสีที่ 3 เป็นสีส้มก็ให้อ่านค่าออกมาเป็น K Ohm ได้เลย   ตัวคูณอื่นๆที่ค่ามากขึ้นก็ให้คิดเหมือนกัน
เช่น ถ้าเจอตัวคูณเป็นสีน้ำเงินก็ให้อ่านค่าออกมาเป็น Mega Ohm ได้เลย ด้วยวิธีการนี้จะทำให้อ่านค่า R ออกมาได้อย่างรวดเร็วขึ้น



อ่านค่าตัวต้านทาน  4  แถบสี

ตาราง  อ่านค่าตัวต้านทาน  4  แถบสี
                                                   ค่าสีตัวต้านทาน ใช้   อ่านค่าตัวต้านทาน



ฝึกอ่านค่า R จากตัวอย่างรูปจริงพร้อมวัดพิสูจน์


ตัวอย่างที่  1

ค่าตัวต้านทาน   R 5 แถบสี อ่านค่า แถบสีตัวต้านทาน แบบเห็นภาพเลย วัดตัวต้านทานพิสูจน์


วิธีอ่านค่าตัวต้านทาน   5 แถบสีนิยมใช้งานมากโดยเฉพาะ R   ค่าความคลาดเคลื่อน 1 %  ฝึกอ่านค่า หรือทบทวนการอ่านค่าได้โดยใช้รูปในบทความนี้
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น

ค่าตัวต้านทาน    ตัวต้านทาน     5  แถบสี


แถบสีที่  1   2 และ   3 เป็นตัวตั้ง แถบสีที่ 4 เป็นตัวคูณ     ใช้ตารางด้านบนในการแทนค่ารหัสสี

ตัวอย่างที่  1
จากรูปมีสี    น้ำตาล  เขียว  ดำ  ดำ   น้ำตาล แทนค่าโดยใช้ตารางด้านบน
1  5  0   x  1   =  150 ohm
เครื่องวัดได้จริง  149.5 ohm


ตัวต้านทาน  R  ค่า   150  1%   ohm   10.5W
                               R  ค่า   150  1%   ohm   10.5W   


ตัวต้านทาน  R  ค่า   150  1%   ohm   10.5W
                                เครื่องวัดได้จริง  149.5 ohm    วัดตัวต้านทานพิสูจน์


ตัวอย่างที่  2 

ตัวต้านทาน ไวร์วาวด์ หุ้มฮิทซิงค์ ( Aluminium Housed Resistor ) ตัวต้านทานค่าคงที่ โครงสร้าง คุณสมบัติ


ตัวต้านทาน   ตัวต้านทาน ไวร์วาวด์  หุ้มฮิทซิงค์

ตัวต้านทานหุ้มฮิทซิงค์เป็นตัวต้านทานไวร์วาวด์ชนิดหนึ่งเรียกชื่อตามวัสดุที่ใช้หุ้มคือฮิทซิงค์   ฮิทซิงค์ช่วยให้ตัวต้านทานระบายความร้อนได้ดีขึ้นมาก ทำให้วัตต์ตัวต้านทานเพิ่มขึ้นประมาณ 40-50%  เช่น ตัวต้านทานหุ้มฮิทซิงค์ 10W  ถ้าไม่หุ้มฮิทซิงวัตต์จะลดเหลือเพียง  5.5W     ตัวต้านทานหุ้มฮิทซิงค์ 50W  ถ้าไม่หุ้มฮิทซิงวัตต์จะลดเหลือเพียง  20W   เป็นต้น  การใช้งานมีใช้งานทั่วไป และใช้งานในระบบควบคุมอุตสาหกรรมสีของตัวต้านทานชนิดนี้ส่วนใหญ่เป็นสีทองและอาจมีสีเงินอยู่บ้าง ตัวต้านทานหุ้มฮิทซิงค์วัตต์ต่ำจะมีขาแบบบัดกรีถ้าวัตต์สูงจะมีขาแบบขันน๊อต  ที่ตัวต้านทานจะพิมพ์ค่าความต้านทาน ค่าวัตต์ และ  %  ความคลาดเคลื่อนไว้ทำให้ง่่ายในการเลือกใช้งานและหารุ่นทดแทน

คุณสมบัติของตัวต้านทานหุ้มฮิทซิงค์
-  มีค่าให้เลือกใช้งานตั้งแต่ค่าโอมต่ำจนถึงค่า K ohm
-  มีค่าวัตต์ให้เลือกใช้งาน  5W  -  300W
-  ค่าสัมประสิทธิ์ความต้านทานต่ออุณหภูมิเสถียรดีมาก    <±1%   ±1%   ±3%   ±5%   ±10%
ฮิทซิงค์และสารนำความร้อนที่อยู่ข้างในช่วยให้ตัวต้านทานระบายความร้อนได้อย่างรวดเร็ว
-  ป้องกันตัวต้านทานจากแวดล้อมได้ดีมาก   โครงสร้างและชิ้นส่วนที่เชื่อมและหุ้มปิดช่วยป้องกันฝุ่นและความชื้นไม่ให้เข้าไปข้างในได้   (กรณีป้องกันไม่ดีความชื้นจะทำให้คุณสมบัติของวัสดุตัวต้านทานข้างในเสื่อมค่าและเปลี่ยนค่า)
-  ทนสัญญานพัลซ์ได้ดีเยี่ยม


รูปแสดงตัวต้านทานหุ้มฮิทซิงค์

ตัวต้านทานไวร์วาวด์ หุ้มฮิทซิงค์   Aluminium Housed Resistor


ตัวต้านทานไวร์วาวด์ หุ้มฮิทซิงค์   Aluminium Housed Resistor

ตัวต้านทานหุ้มฮิทซิงค์  Aluminum Housed   Resistor

วิธีเรียกชื่อ ตัวถัง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ให้ถูกต้อง

อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์   ชื่อ ตัวถัง
                                                                 ชื่อตัวถัง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์



ตัวถังของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใน Datasheet ใช้คำว่า CASE  STYLE   บางครั้งใช้คำว่า  Package / Case  สำหรับตัวถังแบบมาตรฐานแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่  คือ   1. แบบขายาวลง PCB  (   Through Hole )
2. แบบ SMD หรือ  Surface Mount Device   ซึ่งแต่ละแบบก็มีชนิดย่อยๆลงไปอีก  เวลาซื้ออะไหล่สำหรับมือใหม่อาจทำให้ซื้อผิดสเปคได้โดยเฉพาะสินค้าพวก IC SMD  เวลาซื้อบอกคนขายว่าต้องการ IC เบอร์นี้แบบ SMD  เวลาสินค้ามาจริงปรากฏว่าได้เบอร์ถูกต้องแต่ใส่ไม่ได้เพราะ IC  มันกว้างเกินไป ใส่ไม่พอดีลายปริ้นตัวเดิม   ทั้งนี้ก็เนื่องจาก IC SMD มันมี 3-4 แบบย่อยแต่ละแบบต่างกันที่ความกว้างของ IC   เวลาซื้อก็ระบุจำนวนขาและความกว้างตัวถังของ IC ด้วยก็จะช่วยลดปัญหาการได้ของไม่ตรงสเปคเดิม  เริ่มจากตัวถังของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เราใช้บ่อยที่สุดดังนี้

DO35
เคสแบบนี้เรียก  DO35


DO-41
เคสแบบนี้เรียก  DO-41


Diode Outline
   CASE  แบบนี้เรียก  DO  โดย DO ย่อมาจาก  Diode Outline



TO-220   TO-220-3     TO-220-2
เคสแบบนี้เรียก TO-220 หรือ TO-220-3   3 หมายถึง 3 ขาถ้ามี 2 ขาเขียนเป็น TO-220-2



TO-3
เคสแบบนี้เรียก TO-3



TO-247AC   Modified
เคสแบบนี้เรียก    TO-247AC   Modified