ฟิวส์เป็นอุปกรณ์ป้องกันวงจร อุปกรณ์และคนจากอันตรายร้ายแรงที่เกิ ดขึ้นจากกระแสไหลเกิน เพื่อให้เข้าใจการทำงานของฟิวส์ เราจำเป็นต้องเข้าใจคำศัพท์ที่ ใช้อธิบายการทำงานของฟิวส์ คำศัพท์เหล่านี้จะพบได้ ในเอกสารสเปค หรือ Datasheet ของผู้ผลิต บทความนี้เราจะกล่าวถึงหัวข้ อสำคัญและการทำงานของฟิวส์เบื้ องต้นเท่านั้น ในการออกแบบวงจรจริงต้องมี การคำนวณตามหลักการคำนวณ การเลือกใช้ชนิดของฟิวส์ให้ เหมาะกับชนิดของวงจรและสุดท้ ายต้องมีการทดสอบเพื่อพิสูจน์ว่ าฟิวส์สามารถป้องกันกระแสเกิ นและทำงานได้จริงในสภาวะวงจรที่ทำงานไม่ปกติแบบต่าง ๆ
หน้าที่ของฟิวส์
ฟิวส์เป็นอุปกรณ์ป้องกันอั นตรายจากกระแสเกิน หน้าที่ของฟิวส์คือตัดการจ่ ายกระแสและแรงดันออกจากวงจรเมื่ อกระแสไหลเกินกำหนดและเกิดการลั ดวงจร ฟิวส์เป็นอุปกรณ์ป้องกั นที่เชื่อถือได้ไม่มีส่ วนทำงานทางกลไกใด ๆ จึงไม่มีข้อบกพร่องในการป้องกัน ตัวฟิวส์ทำจากโลหะตั วนำผสมสามารถนำไฟฟ้าได้ดีจุ ดหลอมละลายต่ำ คุณสมบัติของฟิวส์คือจะเกิ ดการหลอมละลายทันที เมื่อมีกระแสไหลผ่านมากเกินค่ าที่ตัวฟิวส์ทนได้ ตัวลวดฟิวส์ทำมาจากโลหะตั วนำผสม เช่น ตะกั่ว สังกะสี ดีบุกและทองแดง สามารถนำไฟฟ้าได้ดี มีจุดหลอมละลายต่ำ
การเกิดกระแสเกิน (Over current)
กระแสเกิน หมายถึง ปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ไหลมากกว่ ากระแสของวงจรขณะทำงานปกติ และเกินพิกัดของอุปกรณ์ เช่น สายไฟ หน้าสัมผัสของรีเลย์ สวิตช์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และสิ่งอื่นๆ ที่คล้ายกัน สาเหตุของการเกิดกระแสเกินมีดั งนี้
1) เกิดจากโหลดเกิน (Overload) หมายถึงกระแสไหลเกินมากกว่ ากระแสเต็มพิกั ดของวงจรในภาวะปกติ อยู่ในช่วง100-500% ของพิกัดกระแสปกติ ภาวะโหลดเกินชั่วขณะ เช่น กระแสพุ่งตอนวงจรเริ่มทำงานเนื่ องจากตัวเก็บประจุทำการชาร์จ ขณะมอเตอร์เริ่มหมุน ( Motor start ) การจุดไส้หลอดบางชนิด เป็นต้น
2) เกิดจากการลัดวงจร (Short circuit ) ปริมาณกระแสไฟฟ้าจำนวนมากที่ ไหลมากกว่ ากระแสของวงจรขณะทำงานปกติ กระแสไฟฟ้าที่ไหลมีปริมาณสูงมากอาจสูงเป็ นหลายพันแอมป์ การลัดวงจรมีสองลักษณะคือการลั ดวงจรระหว่างสายและการลั ดวงจรลงดินหรือไฟรั่ว
ผลของการเกิดกระแสเกินทำให้อุ ปกรณ์ที่กระแสไหล่ผ่านมีอุณหภู มิสูงขึ้นทำให้ฉนวนเสื่ อมสภาพและอาจติดไฟได้และถ้าอุ ณหภูมิสูงถึงจุดที่ สายหลอมละลายจนตัวนำขาดออกจากกั น การลัดวงจรถ้ากระแสสู งมากจะทำให้เกิ ดประกายไฟจากการอาร์ก และอาจระเบิดได้
คำศัทพ์เกี่ยวกับฟิวส์ที่จำเป็ นต้องทราบ
1) ระยะเวลาในการตัดของฟิวส์ ( Fuse Characteristic )
ฟิวส์ต้องตัดวงจรก่อนที่วงจรถั ดไปจะเสียหาย ความเร็วในการตอบสนองต่ อกระแสเกิน/หลอมละลายของฟิวส์ว่ าจะเร็วระดับไหน เราจะกล่าวถึงฟิวส์ที่ใช้ในวงจรอิเล็กทรอนิกส์เป็ นหลัก ( PCB Fuse)ซึ่งอ้างอิงตามมาตรฐาน IEC 60127-4 เป็นฟิวส์ทีมีพิกัดแรงดัน 32V 63V 125V 250V เงื่อนไขปริมาณกระแสที่ใช้ในการทดสอบคือ กระแสมากกว่าพิกัดกระแสปกติ 125% ฟิวส์ต้องทนได้และไม่ตั ดในระยะเวลาที่น้อยกว่า 1 ชม. ( ทนได้ไม่ต่ำกว่า 1 ชม. ) กระแสมากกว่าพิกัดกระแสปกติ 200% ฟิวส์ต้องตัดวงจรภายใน 2 นาที ระดับความเร็วในการตัดของฟิวส์ จะใช้เกณฑ์ Over load 1000% เป็นเกณฑ์ ในการแบ่ง
ฟิวส์ขาดเร็วมาก Type FF ( Very Fast acting ) ใช้ระยะเวลาในการตัดน้อยกว่า 0.001 sec.
ฟิวส์ขาดเร็ว Type F ( Fast acting ) ใช้ระยะเวลาในการตัดอยู่ในช่วง 0.001 - 0.01 sec.
ฟิวส์ขาดช้า Type T ( Time lag /Time Delay Slow Blow ) ใช้ระยะเวลาในการตัดอยู่ในช่วง 0.01 - 0.1 sec.
ฟิวส์ขาดช้า Type TT ( Time lag /Time Delay /Slow Blow ) ใช้ระยะเวลาในการตัดอยู่ในช่วง 0.1 - 1.0 sec.
ฟิวส์มีหลายมาตรฐานสำหรับมาตรฐานอื่นๆระยะเวลาและปริมาณกระแสที่ใช้ในการทดสอบจะแตกต่างกัน การเลือกระดับความเร็วในการตั ดกระแสของฟิวส์จะเลื อกตอนออกแบบวงจรต้องเลือกให้ฟิวส์ป้ องกันวงจรถัดไปได้และสอดคล้องกั บชนิดของวงจร
กรณีการซ่อมต้องเลือกฟิวส์ที่มี สเปคตรงกับฟิวส์ตัวเก่าที่ใช้อยู่ ตัวอย่างแนวทางกว้างๆ เช่น โหลดลักษณะแบบตัวต้านทาน ( Resistive load type) รวมถึงวงจรอิเล็กทรอนิ กส์ทั่วไป ซึ่งมีกระเสิร์จ กระแสพุ่งต่ำ จะเลือกใช้ฟิวส์ที่มีระดับความเร็วในการตัดกระแสแบบขาดเร็ว ( Fasting Acting )
โหลดลักษณะแบบตัวเก็บประจุ ( Capacitive load type ) ซึ่งมีกระแสพุ่งมากกว่ ากระแสปกติ 10 เท่า เช่น วงจรแหล่งจ่ายไฟ วงจรมอเตอร์ และวงจรซึ่งมีตัวเก็บประจุค่ าความจุสูงจะเลือกใช้ฟิวส์แบบขาดช้า ( Time lag /Time Delay /Slow Blow ) เพื่อป้องกันฟิวส์ขาดเร็วเกิ นไปหรือตัดวงจรโดยไม่จำเป็น
โหลดลักษณะแบบตัวเก็บประจุ ( Capacitive load type ) ซึ่งมีกระแสพุ่งมากกว่
2) พิกัดกระแส ( Current rating ) หมายถึงปริมาณกระแสสูงสุดที่ฟิ วส์สามารถนำกระแสต่อเนื่องโดยฟิ วส์ไม่หลอมละลาย ถ้ากระแสที่ไหลน้อยกว่าพิกั ดกระแสของฟิวส์ฟิวส์ก็ นำกระแสได้ปกติไม่หลอมละลอย
ตามนิยามของมาตรฐาน IEC ( IEC standard ) หมายถึงฟิวส์สามารถทำงานและนำกร ะแสต่อเนื่องที่ 100% ของพิกัดกระแสของฟิวส์
ส่วนนิยามตามมาตรฐาน UL ( UL Standard ) หมายถึงฟิวส์สามารถทำงานและนำ กระแสต่อเนื่องที่ 75% ของพิกัดกระแสของฟิวส์
จะเห็นว่า 2 มาตรฐานนี้มีเงื่ อนไขในการทดสอบฟิวส์ที่ต่างกัน ดังนั้นในการซ่อมบำรุงควรใช้ฟิ วส์ตามมาตรฐานเดิมที่ใช้อยู่เพื่ อความปลอดภั ยและการหลอมละลายและเปิดวงจรได้ ตามที่ออกแบบไว้
3) พิกัดแรงดัน ( Voltage Rating ) หมายถึงแรงดันสูงสุดที่ฟิวส์ สามารถทำงานเปิดวงจรได้อย่ างปลอดภัยโดยไม่ระเบิด ยกตัวอย่างเช่น
ฟิวส์พิกัดแรงดัน 125V สามารถนำไปใช้กับไฟ 110V ได้ แต่ไม่สามารถนำไปใช้กับไฟ 220V
ฟิวส์พิกัดแรงดัน 250V สามารถนำไปใช้กับไฟ 220V ได้ และยังสามารถนำไปใช้กับไฟ 110V ได้ด้วย
4) พิกัดกระแสลัดวงจร ( Breaking Capacity หรือ Interrupting Rating ) หมายถึงกระแสลัดวงจรสูงสุดที่ฟิ วส์สามารถเปิดวงจรได้อย่ างปลอดภัย ( The maximum approve current ) ที่พิกัดแรงดันที่กำหนด เมื่อวงจรทำงานผิดปกติเกิ ดกระแสลัดวงและมี กระแสจำนวนมากไหลผ่านฟิวส์จะต้ องทนได้คือชิ้นส่วนของฟิวส์ยั งคงต่อกันและไม่ระเปิดพร้อมกั นนั้นฟิวส์จะต้องหลอมละลอยเปิ ดวงจรได้อย่างปลอดภัย ในการออกแแบบเราต้ องคำนวนหาปริมาณกระแสลัดวงจรสูงสุดที่ อาจเกิดขั้นจากนั้นก็เลือกใช้ฟิ วส์ที่มีพิกัดกระแสลัดวงจรสู งกว่ากระแสลัดวงจรสูงสุดที่เกิ ดขึ้น
5) ฟิวส์ไฟ AC และ ไฟ DC
ฟิวส์ไฟ AC พบได้ในวงจรแหล่งจ่ายไฟ AC Input และอุปกรณ์ไฟฟ้า ส่วนฟิวส์ไฟ DC พบได้ในวงจรไฟ DC และวงจรที่ใช้แบตเตอร์รี่
เนื่องจากเงื่อนไขในการออกแบบการทดสอบฟิวส์ การหลอมละลาย รูปคลื่นแรงดันและพลังงานความร้ อนที่เกิดกับฟิวส์เนื่องจากไฟ AC และ DC ต่างกันจึงไม่สามารถใช้แทนกั นได้โดยตรง ต้องมีการคำนวนเพื่อลดพิกัด ยกเว้นฟิวส์ที่ระบุไว้ชัดเจนว่ าสามารถใช้ได้ทั้งไฟ AC และ DC
5) การลดพิกัดเนื่องจากอุณหภูมิ ( Rerating / Derating )
ปกติแล้วพิกัดแสของฟิวส์ จะทดสอบที่อุณหภูมิ 25°C เช่นฟิวส์ 10A หมายถึงฟิวส์ที่สามารถนำกระแสต่ อเนื่อง 10A ได้โดยไม่หลอมละลาย โดยมีเงื่อนไขว่าอุณหภูมิที่ใช้ ในการทดสอบนี้คือ 25°C ถ้าเรานำฟิวส์นี้ไปใช้งานที่อุ ณหภูมิที่สูงกว่า 25°Cจะเกิดอะไรขึ้น ?
เนื่องจากฟิวส์เป็นอุปกรณ์ที่ ไวต่อความร้อนเมื่อมีกระแสเล็ กน้อยไหลผ่านก็จะเกิดความร้ อนในฟิวส์เล็กน้อยฟิวส์ก็ไม่ หลอมละเลย เมื่อกระแสไหลผ่านมากกว่าพิกั ดที่กำหนดก็จะเกิดความร้ อนจำนวนมากจนเพียงพอที่จะทำให้ ฟิวส์หลอมละลาย ฟิวส์อาศัยความร้อนเพื่ อหลอมละลายและความร้อนเกิ ดจากกระแสที่ไหลผ่าน อุณหภูมิแวดล้อมก็มีส่ วนในการเร่งให้ฟิวส์หลอมละลายเร็วขึ้น เช่นถ้านำฟิวส์ 10A 25°C ไปใช้ที่อุณหภูมิ 40°C ฟิวส์จะหลอมละลายเร็วกว่าปกติ เพราะมีความร้อนจากอุณหภูมิ แวดล้อมเป็นตัวเร่ง ถ้านำไปใช้ ที่อุณหภูมิ 10°C ฟิวส์จะหลอมละลายช้ากว่าปกติ
ในการออกแบบวงจรต้องคำนึงถึงอุ ณหภูมิแวดล้อมด้วยเพราะต้องมี การลดพิกัด( Derating )เพื่อชดเชยการทำงานของฟิวส์ให้ ทำงานตรงกับจุดตัดกระแสที่ต้ องการให้ตัดวงจรและสอดคล้องกั บปัจจัยอื่นๆในวงจรด้วย
ุ6) กราฟ Time-Current ( Time-Current Curve ) เป็นกราฟเส้นโค้ งแสดงระยะเวลาในการหลอมละลายและ แสดงความสัมพันธ์ระหว่างปริ มาณกระแสและระยะเวลาในการตั ดของฟิวส์ กราฟนี้มีประโยชน์ ในการออกแบบวงจรป้องกันกระแสเกิ นคือใช้เลือกจุดทำงานหรือจุดตั ดกระแสเกินของฟิวส์ สิ่งที่ต้องพิจารณคือฟิวส์แต่ ละรุ่นแต่ละโรงงานผลิตจะะมี กราฟ Time-Current ที่ต่างกัน ต้องอ้างอิงข้อมู ลการทดสอบจากโรงงานผลิต
รูปแบบฟิวส์ที่ใช้ในแผงวงจรอิเล็ กทรอนิกส์
1) ฟิวส์ SMD มีขนาด 0402 0603 0805 1206 และ 2410 มีชื่อเรียกขนาดมาตรฐานเหมือน R SMD และ C SMD ยังมีฟิวส์ SMD ขนาดอื่นๆ ด้วย เช่น 2-SMD, J-Lead มีขนาด ยาว 7.24mm x กว้าง 4.32mm x สูง 3.05mm และ 2-SMD, Square End Block มีขนาด ยาว 6.10mm x กว้าง 2.54mm x สูง 2.54mm เป็นต้น
ฟิวส์ SMD แบบขาดช้า อักษร T ที่ตัวฟิวส์หมายถึง Time Delay = ขาดช้า 4 = 4 แอมป์
รูปแสดงฟิวส์ SMD อยู่ในแผงวงจร
ฟิวส์ SMD ขนาด 5A
ฟิวส์ SMD
ฟิวส์ SMD แบบขาดช้า อักษร T ที่ตัวฟิวส์หมายถึง Time Delay = ขาดช้า 4 = 4 แอมป์
รูปแสดงฟิวส์ SMD อยู่ในแผงวงจร
2) ฟิวส์มีขาแนวตั้ง
ที่ตัวฟิวส์จะเขียนอักษร T หมายถึงแบบขาดช้า ( Time Delay)
ฟิวส์มีขาแนวตั้งใช้ในแผง PCB หรือ Fuse Board Mount
ที่ตัวฟิวส์จะเขียนอักษร T หมายถึงแบบขาดช้า ( Time Delay)
รูป Fuse Board Mount 2A 250VAC แบบขาดช้า
ที่ตัวฟิวส์จะเขียนอักษร T หมายถึงแบบขาดช้า ( Time Delay)
ฟิวส์มีขาแนวตั้งใช้ในแผง PCB หรือ Fuse Board Mount
รูป Fuse Board Mount สีดำ 2A 250VAC แบบขาดช้า
ที่ตัวฟิวส์จะเขียนอักษร T หมายถึงแบบขาดช้า ( Time Delay)
ฟิวส์มีขาแนวตั้งใช้ในแผง PCB หรือ Fuse Board Mount
3) ฟิวส์มีขาแนวนอน
ฟิวส์เซรามิคมีขาแนวนอน
ฟิวส์สีเขียวนี้คือ Littelfuse Series PICO® II 251 เป็นฟิวส์ขาดเร็ว
4) ฟิวส์หลอดแก้ว
มีทั้งแบบขาดเร็ว ( Fast Blow ) ขาดช้าปานกลาง ( Medium blow ) และ ขาดช้า ( Slow Blow ) ที่พบมากที่สุดเป็นแบบขาดเร็วและขาดช้า มีขนาดมาตรฐานคือ 5x20mm 6x30mm ยังมีขนาดอื่นๆด้วยเช่น 1AG 2AG 3AG 5AG 7AG8AG เป็นต้น
ฟิวส์หลอดแก้ว
5) ฟิวส์เซรามิค
ฟิวส์เซรามิคมีทั้งแบบขาดเร็ว ( Fast Blow ) ขาดช้าปานกลาง ( Medium blow ) และ ขาดช้า ( Slow Blow ) ที่พบมากที่สุดเป็นแบบขาดเร็วและขาดช้า มีขนาดมาตรฐานที่นิยมใช้งานทั่วไปคือ 5x20mm 6x30mm กับ 10x38mm
ฟิวส์เซรามิคขนาดมาตรฐาน 6x30mm
เลือก รายการต่อไปนี้ 50 เรื่องน่ารู้ เพื่อ อ่านเพิ่ม
- ตัวเก็บประจุ คาปาซิเตอร์ (20) โดย (20) = มี 20 เรื่อง
- ตัวต้านทาน รีซิสเตอร์ (22)
- ตัวเหนี่ยวนำ อินดักเตอร์ (6)
- ฟิวส์ FUSE (5)
- อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อื่นๆ (20)